เคล็ดลับง่าย ๆ การทำความสะอาดเครื่องแก้วให้สะอาดสดใส
เคล็ดลับง่าย ๆ การทำความสะอาดเครื่องแก้วให้สะอาดสดใส ------------------------------------- เครื่องแก้วชุดโปรดหลังจากวางโชว์ตัวสวย ๆ อยู่บนตู้มานานแสนนาน พอถึงเวลาจะหยิบเอาออกมาใช้ อ้าว!! เครื่องแก้วที่เคยใส ๆ เป็นคราบหมดเลย ตรงนั้นก็มีรอยนิ้วมือ ตรงนี้ก็ไม่สะอาดสดใส จะทำยังไงดีกับคราบพวกนี้ดีหล่ะ ? ใช้วิธี ทำความสะอาด แก้ว แบบธรรมดาจะออกหรือเปล่านะ อย่าเพิ่งเป็นกังวลใจไปค่ะเพราะชุดเครื่องแก้วพวกนี้หากปล่อยไว้ในตู้โชว์นาน ๆ ไม่ได้นำลงมาเช็ดล้างทำความสะอาดอยู่เสมอ คราบก็จะมาขอเกาะขอนอนเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ยังมีแก้วน้ำที่เราคว่ำไว้ที่ชั้น ไม่ได้หยิบมาใช้งานก็สามารถเกิดคราบได้เช่นกัน วันนี้ my home มีเคล็ดลับวิธีการ ทำความสะอาด แก้ว ง่าย ๆ แต่ได้ผลชัวร์มาฝากกัน 1 . รอยนิ้ว และคราบมัน ติดตามถ้วยแก้วทรงสูง www.tripadvisor.co.uk แก้วทรงสูงส่วนใหญ่เรามักจะใช้ในงานสังสรร งานปาร์ตี้ต่าง ๆ หากเผลอตัวใช้แล้วลืมน้ำ หรือล้างเสร็จแล้วไม่ได้เช็ดคราบน้ำออกให้สะอาดเรียบร้อยก็อาจจะมีรอยนิ้วมือมัน ๆ รวมถึงคราบน้ำที่แห้งเกาะติดอยู่ที่แก้วก็ได้ค่ะ โดยทั่วไปการ ทำความสะอาด แก้ว ที่มีคราบดังกล่าวนั้นสามารถใช้เกลือป่นเช็ดก็สะอาดได้…
แต่งบ้านง่ายๆด้วยสไตล์วินเทจ
สำหรับคนชอบความเป็นธรรมชาติ ดูนุ่นนวลและอ่อนหวาน คุณเหมาะที่จะอยู่บ้านที่ออกแบบตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ ที่ผ่านมาการแต่งบ้านแบบโมเดิร์นได้เข้ามามีอิทธิพลกับการตกแต่งอย่างมากในหลายๆปีที่ผ่านมา จนเป็นการตกแต่งมาตรฐานที่ต้องนึกถึงของหลายๆคน แต่ก็อาจจะมีหลายคนที่บอกว่าเบื่อแล้ว อยากจะลองตกแต่งบ้านแบบอื่นๆบ้าง ถ้าอย่างนั้นเรามาตกแต่งแบบสไตล์ที่ตรงข้ามกัน นั่นคือ การตกแต่งในสไตล์วินเทจ ซึ่งผมจะขอพูดในแบบรวมๆก็แล้วกันนะครับ ซึ่งคำว่า “วินเทจ” หมายถึง แบบโบราณหรือแบบยุคเก่า ที่เคยถูกใช้งานมาแล้วในอดีต เป็นรูปแบบการตกแต่งในแถบประเทศตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังหมายถึงการตกแต่งแบบเอเชียด้วยเช่นกัน เช่น แบบจีนโบราณ เป็นต้น การตกแต่งแบบนี้จะเน้นการกรุตกแต่งผนังด้วยคิ้วบัวไม้ต่างๆ มีการใช้สีทาผนังที่สามารถใช้แบบทาสีเดียวกันทั้งผนัง หรือจะเล่นสีตัดกันกับบัวไม้ที่ตกแต่งก็ได้ เช่น เล่นบัวสีขาวตัดกับผนังสีน้ำเงิน, บัวสีขาวกับผนังสีครีม เป็นต้น ปริมาณการใส่บัวตกแต่งก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ ติดบัวเฉพะที่พื้นกับเพดาน, เพิ่มการตกแต่งคิ้วไม้ที่ผนังด้านล่าง และมีการตกแต่งด้วยบัวและคิ้วไม้ทั้งหมดของพื้นที่ผนัง ทั้งนี้ปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับความชอบและความสูงของฝ้าเพดาน เพราะถ้ามีความสูงของเพดานที่ไม่มากนัก ก็ไม่ควรใช้มากจนเกินไปเพราะจะดูอึดอัด หลังจากที่ได้ผนังแล้วก็ มาดูส่วนของการใช้เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งดูไม่ยากว่าอันไหนคือเฟอร์นิเจอร์แบบวินเทจ โดยเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้จะมีรูปทรงและลักษณะที่ดูโบราณ ตรงข้ามกับแบบโมเดิร์นที่จะมีรูปทรงทันสมัยเรียบๆ ถ้ามีเก้าอี้ โซฟาหรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่เป็นของเก่าอยู่แล้ว อาจจะเลือกที่จะนำมาใช้ได้เลยโดยไม่ทำสีหรือผ้าบุใหม่ แต่ถ้ายังชอบรูปทรงเดิม แล้วอยากทำให้ดูใหม่ขึ้น ก็ให้นำเฟอร์นิเจอร์ตัวนั้นไปทำสีและหุ้มผ้าใหม่ เลือกสีเลือกผ้าให้เข้ากับผนังที่เราตกแต่งหรือจะให้สีตัดกันเพื่อให้ดูโดดเด่นขึ้นมาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบวินเทจทั้งหมดก็ได้…
เปิดประวัติ “กลอนประตูโบราณ” เกิดที่อียิปต์ แต่โตที่โรมัน
ถ้าใครที่ชอบสะสมหรือแต่งบ้านด้วยกลอนประตูโบราณ บอกเลยว่าคุณมาถูกทางแล้วค่ะ เพราะกลอนประตูโบราณ นับว่าเป็นของโบราณของแท้ มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ 6,000 ปีที่แล้วเลยทีเดียว ย้อนไปตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ในตอนนั้นเริ่มมีการคิดค้นกลอนประตูโบราณขึ้น โดยตัวกลอนประตูโบราณทำจากไม้ มีลูกกุญแจที่รูปร่างคล้ายแปรงสีฟัน โดยภาพรวมก็คือไม่ได้แน่นหนาและซับซ้อนมาก หากจะให้นิยามในแบบศิลปะ กลอนประตูโบราณในสมัยอียิปต์ ค่อนข้างใหญ่และหยาบ ไม่ค่อยมีความละเมียดละไมนัก แต่ก็รักษาความปลอดภัยได้ดีพอสมควรในสมัยนั้นค่ะ กลอนประตูโบราณที่ชาวอียิปต์โบราณคิดค้นขึ้น ถูกใช้งานมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วง 1,000 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งผู้ที่มองเห็นไอเดียการต่อยอดพัฒนากลอนประตูโบราณ ก็คือชาวกรีกและชาวโรมัน ที่มองเห็นปัญหาว่า กลอนประตูโบราณที่ชาวอียิปต์คิดค้นมานั้น ดูแล้วไม่ค่อยจะปลอดภัยสักเท่าไหร่ เมื่อมองเห็นปัญหา จึงต่อยอดมาเป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นว่า จะสร้างกลอนประตูโบราณอย่างไร ให้ซับซ้อนและแน่นหนา มากกว่ากลอนประตูโบราณแบบไม้ที่กำลังใช้อยู่ ในที่สุดก็เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ของชาวกรีกและโรมัน นั่นคือการคิดค้น กลอนประตูโบราณที่ทำจากเหล็กและโลหะ โดยใช้โลหะ มาทำกลอนประตู ส่วนลูกกุญแจนั้นทำจากเหล็ก เพื่อให้มั่นใจว่า กลอนประตูโบราณนี้จะสามารถล็อคได้แน่นหนาและแข็งแกร่ง บางคนอาจจะบอกว่า กลอนประตูโบราณมันก็แค่ส่วนเล็ก ๆ ไม่ได้สำคัญ เท่าประตูหน้าต่าง หรือหลังคาสักหน่อย แต่อย่าลืมว่า...ในสมัยกรีกและโรมัน หากไม่ได้กลอนประตูโบราณมาช่วยรักษาความปลอดภัย ก็ยากที่จะรักษาสิ่งของ…
#วิธีการทำความสะอาดอย่างปลอดภัยและสะอาด
#วิธีการทำความสะอาดอย่างปลอดภัยและสะอาด ---------- โคมไฟระย้า หรือ แชนเดอเลียร์ (chandelier) เป็นชื่อเรียกลักษณะของโคมไฟตกแต่งที่แขวนบนเพดาน ซึ่งปัจจุบันโดยทั่วไปจะพบโคมไฟลักษณะนี้ ตามห้องโถงของสถานที่หรูหรา เช่น โรงแรม หรือ บ้านคนรวย สำหรับความถี่ในการทำความสะอาดโคมไฟระย้าโดยทั่วไปแล้วควรทำความสะอาดโคมไฟระย้าทุกๆหกเดือนถึงหนึ่งปี แต่ถ้าหากติดตั้งโคมไฟระย้าไว้ในส่วนของบ้านที่สกปรกได้ง่าย อย่างเช่นในห้องครัวหรือบ้านของท่านติดตั้งไว้ในสถานที่ ที่มีฝุ่นมาก ซึ่งจะต้องทำความสะอาดบ่ายขึ้นสี่ครั้งต่อปี หรือจะทำความสะอาดโคมไฟระย้ามากกว่าสามารถสังเกตของการไม่สะท้อนของคริสตัล อย่างเช่น ฝุ่นเกาะที่คริสตัล หรือคราบขุ่นมัว ก็ถึงเวลาที่ต้องทำความสะอาดแล้ว ซึ่งจะมีวิธีการทำความสะอาดอย่างปลอดภัยและสะอาดดังนี้ 1.ปิดสวิตซ์ไฟโคมไฟระย้าที่ต้องการทำความสะอาด 2.ใช้เทปกาวปิดสวิตซ์โคมไฟระย้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเปิดโคมไฟระย้าในขณะที่ทำความสะอาด 3.ใช้ถุงพลาสติดครอบดวงไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าหลอดไฟ 4.วางอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันการหลุดร่วงของโคมไฟ คือ อุปกรณ์ เชฟตี้ 5.ผสมน้ำยาสำหรับทำความสะอาดคริสตัล และสารละลายสำหรับทำคริสตัสให้แวว 6.ใช้บรรไดสูงเพื่อทำความสะอาด ได้อย่างปลอดภัย 7.ใช้สเปร์น้ำยา ลงบนโคมไฟระย้า และควรระมัดระวังไม่ให้ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าเปียก หลังจากนั้นทำความสะอาดชิ้นส่วนที่ไม่ใช่คริสตัล ด้วยผ้าที่นุ่มจุ่มลงไปในน้ำเพื่อนทำความสะอาด วัสดุ ที่เป็นทองเหลือง สเตนเลส ฯลฯ 8.ตรวจสอบความสะอาดและความเรียบร้อยของโคมไฟระย้า แล้วทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชม.ก่อนที่จะเปิดใช้โคมไฟระย้า…
การดูแลรักษา “นาฬิกาโบราณ”
การดูแลรักษานาฬิกา การทำความสะอาดนาฬิกาข้อมือหลังการใช้งาน โดยปกติแล้วนาฬิกาข้อมือที่ผ่านการใช้งานจะมีคราบเหงื่อ น้ำ หรือ สิ่งสกปรกอื่นสะสมอยู่ที่สายนาฬิกา และตัวเรื่อนนาฬิกา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการผุกร่อน หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะตามข้อต่อระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ระหว่างตัวเรื่อนนาฬิกาและฝาหลัง หรือระหว่าข้อต่อของสายนาฬิกาดังนั้น หลังจากการใช้งานควรที่จะทำความสะอาดนาฬิกาด้วยวิธีการที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น การทำความสะอาดตัวเรือนนาฬิกา 1. ควรล้างทำความสะอาดตัวเรื่อนด้วยแชมพูอ่อนๆ หรือน้ำสะอาด โดยอาจใช้แปรงสีฟันช่วยขัด บริเวณที่เป็นซอก ข้อต่อ ต่างๆ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง 2. เช็ดด้วยผ้าแห้งที่อ่อนนุ่ม 3. ใช้ไดร์เป่าลมร้อน โดยตั้งอุณหภูมิไม่สูงมากนัก เป่าไล่ความชื้นอีกครั้ง โดยบเฉพาะบริเวณที่เป็นข้อต่อต่างๆ (ใช้นาฬิกาวางบนมือ แล้วใช้ลมร้อนเป่า ถ้ารู้สึกว่ามือข้างที่วางนาฬิการ้อนให้หยุดเป่า หรือ ลดอุณหภูมิลง) หมายเหตุ 1. กรณีที่ตัวเรือนทำด้วยพลาสติก ห้ามใช้ลมร้อนเป่าโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ตัวเรือนเสียรูป หรืออุปกรณ์ประกอบเสียหายได้ 2. กรณีนาฬิกาที่ไม่มีคุณสมบัติการกันน้ำ ให้ทำความสะอาด โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ด การทำความสะอาดสายนาฬิกา สายนาฬิกาที่เป็นโลหะ ::…
ย้อนประวัติศิลปะ | เลือกซื้อ “เก้าอี้โบราณ” ทำไมต้องของ ‘เชคโก’
ถ้าเรียกกันสั้น ๆ เราก็มักจะเรียกโต๊ะหรือเก้าอี้โบราณว่า เก้าอี้เชคโก ซึ่งชื่อเต็มก็คือ Czechoslovakia Style Chair ค่ะ เนื่องจากเก้าอี้โบราณทรงนี้ มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบยุโรป ประเทศเชคสโลวาเกีย ซึ่งของดีประจำประเทศเช็ก ที่เรามักซื้อติดมือมาฝากคนไทย ก็มักจะเป็น ไวน์ หรือบรรดาเหล้าสมุนไพร และที่เด็ดไม่แพ้ชาติใดในโลก ก็คือ "เฟอร์นิเจอร์" รวมทั้ง โต๊ะโบราณ หรือเก้าอี้โบราณด้วยค่ะ โต๊ะโบราณหรือเก้าอี้โบราณของเชคโก เริ่มเข้าสู่ยุคทองภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยได้รับอิทธิพลจากการออกแบบมาจากศิลปะแบบเดโค (Art Deco) ซึ่งเป็นรูปแบบของศิลปะและการออกแบบที่ผสมผสานศิลปะหลายแบบเข้าด้วยกัน ทั้งแบบคลาสสิค แบบสมัยใหม่ เน้นการใช้เส้นที่คมชัด ในขณะเดียวกันรูปทรงที่ออกแบบก็ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ แสดงถึงความสมดุล ดังนั้น เก้าอี้โบราณแบบเชคโก ถึงไม่ใช่เก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะแข็ง ๆ ทึบ ๆ ตรงกันข้าม ดีไซน์ของเก้าอี้กลับให้ความรู้สึกนุ่มนวลและอ่อนโยน จากเส้นโค้งของเก้าอี้ที่อยู่ในนั้นด้วย ซึ่งการออกแบบเก้าอี้โบราณ ในสไตล์เชคโกแบบดั้งเดิม เป็นการผลิตเก้าอี้ขึ้นมาจาก "ไม้บีช" ซึ่งเป็นสีน้ำตาล อมเหลืองหรืออมส้ม…